สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
HIGHLIGHT
ประวัติความเป็นมา
พันธกิจ
ยุทธศาสตร์
ภารกิจ
โครงสร้างสร้างองค์การ
ยุทธศาสตร์
องค์การมหาชน เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยประเภทที่สาม นอกเหนือจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เริ่ม ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีการใช้ประโยชน์ใน ทรัพยากรและบุคลากรให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ตลอดจนเพื่อบูรณาการให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าร่วมกันทํางานอย่างมีเอกภาพ และประสานงานกันเพื่อความรวดเร็วในการดําเนินงาน ซึ่งต้องอาศัยความ เร่งด่วน
ความหมายแฝงที่อยูในแบบตราสัญลักษญนั้นประกอบไปด้วย
การเลือกใช้สีเขียว เพื่อเป็นสีแสดงอัตลักษณ์ของบริษัท เปนสีที่มีความหมายถึงความเปนมิตรตอธรรมชาติ เกี่ยวของกับสิ่งแวดลอมและความมุงมั่น
การเลือกใชสีขาว แสดงถึงความปลอดภัย ความสะอาด ความมั่นคง และความบริสุทธิ์
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สทน. (Thailand Institute of Nuclear Technology: TINT) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549 มีภารกิจหลัก คือ ศึกษาวิจัยและพัฒนา ตลอดจนเผยแพร่ ความรู้และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ ปัจจุบันมี รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ เป็น ผู้อํานวยการ รองผู้อํานวยการได้แก่ พลเรือตรี วัชระ การุณยวนิช และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ําทรัพย์
ประวัติความเป็นมา
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสทน.เป็นหน่วยงานในกํากับของกระทรวงการ อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ได้แยกออกจากสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2549 ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยมีคณะ กรรมการบริหารดูแลจัดการให้การดําเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้ง
พันธกิจ
- วิจัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์และการประยุกต์ใช้
- ให้บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์ผลิตและให้บริการผลิตภัณฑ์ไอโซโทปรังสีและการจัดการกาก กัมมันตรังสี
- ให้บริการทางวิชาการส่งเสริมสนับสนุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ ตลอดจนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์
- วิจัยการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องตลอดจนด้านความปลอดภัยทาง นิวเคลียร์และรังสีการตรวจวัดปริมาณรังสีในสิ่งแวดล้อมและการป้องกันอันตรายจากรังสี
- ดําเนินงานด้านความปลอดภัยความมั่นคงปลอดภัยและการพิทักษ์ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี
ยุทธศาสตร์
- สร้างเสริมการวิจัยพัฒนาเพื่อให้ได้นวัตกรรมและสินค้าและบริการใหม่ด้วยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ทดแทนการนําเข้าแก้ไขปัญหาของประเทศด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์และสร้างการยอมรับในระดับ นานาชาติ
- พัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักความรู้ความเข้าใจความชื่นชม ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์และส่งเสริมความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม
- สร้างเสริมประสิทธิภาพในการดําเนินงานของสถาบันให้เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสร้าง นวัตกรรมกระบวนการและการบริการและจัดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เครื่องใหม่
- พัฒนาองค์กรโดยสร้างบุคลากรให้มีทีมงานที่มีศักยภาพสูงส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ เพิ่มพูนขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติงานสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับต่างประเทศและพัฒนา คุณภาพชีวิตการทํางานของเจ้าหน้าที่
- ส่งเสริมการกํากับดูแลกิจการที่ดี
ภารกิจ
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ มีภารกิจหลัก 2 ส่วน คือ
- ให้บริการ เผยแพร่ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ของประเทศ
- ศูนย์บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ให้บริการวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบทางเทคโนโลยีนิวเคลียร์
- ศูนย์ฉายรังสีอาหาร ให้การบริการฉายรังสีผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตผลการเกษตร เช่น เครื่องเทศ สมุนไพร ผลไม้ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และแหนม นอกจากนั้นศูนย์ฉายรังสีแห่งนี้ยังช่วยส่งเสริมการ ส่งออกด้วยการให้บริการฉายรังสีผลไม้ 6 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ลําไย เงาะ ลิ้นจี่ สับปะรด และมังคุด เพื่อให้สามารถส่งออกไปขายยังสหรัฐอเมริกาได้
- ศูนย์ไอโซโทปรังสี ให้บริการผลิตสารไอโซโทปรังสี จัดส่งให้โรงพยาบาล และสถาบันต่างๆ 25 แห่ง รวมทั้งบริการฉายรังสีผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
- ศูนย์ฉายรังสีอัญมณี ให้บริการฉายรังสีอัญมณีเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การเปลี่ยนสีของพลอยโทแพซ ให้ เป็นสีฟ้าทําให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
- ศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสี รับริการจัดการกากกัมมันตรังสี รับจัดการกากกัมมันตรังสีจากทั่ว ประเทศ
- ศูนย์วิศวกรรมและเครื่องมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ให้บริการ ผลิต จําหน่าย ติดตั้ง และซ่อมบํารุง เครื่องมือตรวจวัดรังสี ได้แก่ เครื่องสํารวจรังสีแกมม่า รังสีเบต้า รังสีเอ็กซ์ . เครื่องเฝ้าติดตามปริมาณ รังสีในพื้นที่ เป็นต้น
- การวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีนิวเคลียร์
- การวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นการใช้เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย เพื่อผลิตไอโซโทปรังสี สารประกอบติดฉลากรังสีสําหรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาโรค เช่น สารประกอบไอโอดีน-131 ใช้ ตรวจรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ สารประกอบเทคนีเชียม-99 เอ็ม หลายชนิด ใช้ตรวจอวัยวะภายใน เช่น กระดูก ปอด ไต และสารประกอบซาแมเรียม-153 มีรังสีบีตาที่สามารถทําลายเซลล์มะเร็งใน กระดูก ใช้บรรเทาความเจ็บปวดให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระดูกระยะสุดท้าย
- การวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพและการเกษตร ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์พืช โดยใช้เทคนิคการฉายรังสี ซึ่งจะมีสารต้นกําเนิดรังสีแกมมาที่ชื่อว่า โคบอลต์ 60 ปัจจุบันนี้มีผลิตผลทางการเกษตรที่สามารถ ปรับปรุงพันธุ์ได้สําเร็จ เช่น ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และการฉายรังสีบัวหลวงสีเหลือง ซึ่งมีต้นกําเนิด อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ให้สามารถปลูกในประเทศไทยได้สําเร็จเป็นแห่งแรกของเอเซีย นอกจากนี้ยังมีการ กําจัดแมลงศัตรูพืชด้วยเทคนิคการฉายรังสี ทําให้แมลงเป็นหมัน เช่น จังหวัดกําแพงเพชร จังหวัด นครนายก และ จังหวัดจันทบุรี และการถนอมอาหารด้วยการฉายรังสี เช่น ผลไม้เพื่อการส่งออก
- การวิจัยด้านวัสดุศาสตร์และอุตสาหกรรม สามารถนําประโยชน์ของรังสีมาใช้ในการปรับปรุง คุณสมบัติของวัสดุ เช่น การฉายรังสีสายไฟ เพื่อให้ฉนวนทนความร้อนมากขึ้น การเตรียมวัสดุปิดแผล สดจากไฮโดรเจน เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- การวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย โดยการนําเอาองค์ความรู้ที่ได้มาตรวจสอบสาร กัมมันตรังสีต่างๆ ในธรรมชาติ เช่น ยูเรเนียม และในร่างกายมนุษย์ก็มีสารกัมมันตรังสีอยู่ด้วยเช่นกัน ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งห้องปฏิบัติการไอโซโทปโฮโดรโลจี้ เป็นการใช้เทคโนโลยีไอโซโทปในการศึกษา อัตราการไหลของน้ําบาดาล การหาแหล่งที่มาของน้ําบาดาล เพื่อประโยชน์ในการจัดการทรัพยากรน้ํา
โครงสร้างองค์กร
ยุทธศาสตร์
แหล่งอ้งอิง
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ
ผู้จัดทำ
ติดตามข่าวสาร
แนะนำ