กฎหมายพื้นฐานสำหรับบุคลากรภาครัฐ
รายวิชา 2553602 : หลักกฎหมายปกครอง [ ประวัติ แนวคิด และลักษณะทั่วไปของฝ่ายปกครองและกฎหมายปกครอง ที่มาของกฎหมายปกครอง การใช้และการตีความกฎหมายปกครอง การจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ระบบราชการไทย ความเกี่ยวพันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย การควบคุมฝ่ายปกครอง ศาลปกครอง คดีปกครองและพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฉบับปัจจุบัน และการบังคับคดีทางปกครอง ] 3(3-0-6) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครอง การดำเนินกิจกรรมทางปกครอง รวมทั้งการควบคุมตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมทางปกครอง ตลอดจนการกำหนดหลักเกณฑ์ซึ่งระบุความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายปกครองกับประชาชน ทั้งนี้ ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ กล่าวคือ
- รัฐโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของคนหมู่มากในสังคมหรือประโยชน์สาธารณะ
- ในกรณีที่ประโยชน์ส่วนตัวของเอกชนสอดคล้องกับประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ รัฐก็ใช้นิติสัมพันธ์ตามกฎหมายเอกชนได้
- ในกรณีที่ประโยชน์ส่วนตัวของเอกชนไม่สอดคล้องกับประโยชน์สาธารณะจะต้องให้ประโยชน์สาธารณะอยู่เหนือประโยชน์ส่วนตัวของเอกชน
- ถ้าเอกชนไม่ยินยอมที่จะสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็จะต้องให้รัฐโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีอำนาจบังคับเอกชนเพื่อประโยชน์สาธารณะได้
กฎหมายปกครอง คือ กฎหมายมหาชนที่วางหลักด้านการจัดระเบียบบริหารราชการทางปกครอง มีความเกี่ยวข้องกับการจัดองค์กรของฝ่ายปกครอง และการดำเนินกิจกรรมด้านบริการสาธารณะของฝ่ายปกครอง รวมถึงการควบคุมการจัดบริการสาธารณะของฝ่ายปกครอง รายละเอียดประกอบด้วย
-
-
-
- หลักกฎหมายปกครอง
- การจัดโครงสร้างฝ่ายปกครอง
- การจัดระเบียบบริหารราชการ
- การจัดบริการสาธารณะ
- การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
- ความรับผิดชอบของฝ่ายปกครอง
- การควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
- ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
-
-
กฎหมายที่บัญญัติให้อำนาจและหน้าที่แก่หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานทางปกครอง และแก่หน้าเจ้าที่ของรัฐ เพื่อใช้อำนาจหน้าที่นั้นในการปกครองหรือบริการสาธารณะ
กฎหมายมหาชน เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐหรือหน่วยงานของรัฐกับเอกชน โดยกำหนดให้สถานะของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐให้อยู่ในฐานะที่เหนือกว่าเอกชน ทั้งนี้เพราะรัฐอยู่ในสถานะผู้ปกครองที่ต้องบริหารประเทศให้เกิดความสงบเรียบร้อย เป็นเครื่องมือในการบังคับประชาชนในสังคม มีเจตนารมณ์เพื่อควบคุมและคุ้มครองสังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นเครื่องมือของรัฐในการดำเนินนโยบายสาธารณะที่มีผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ของสังคม
กฎหมายเอกชน เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกันเอง ในฐานะที่เอกชนนั้นมีความเสมอภาคหรือเท่าเทียมกัน
©แนวคิดที่เป็นรากฐานของกฎหมายปกครอง
-
- แนวคิดเรื่องการแบ่งแยกการใช้อำนาจอธิปไตย
- แนวคิดว่าด้วยนิติรัฐ
- แนวคิดว่าด้วยการจัดบริการสาธารณะ
©ลักษณะสำคัญของกฎหมายปกครอง
-
- เป็นสาขาหนึ่งของกฎหมายมหาชน
- เป็นกฎหมายที่วางหลักการเกี่ยวกับการจัดระเบียบและวิธีดำเนินการในการจัดให้มีบริการสาธารณะของฝ่ายปกครอง
- เป็นกฎหมายที่วางหลักความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรฝ่ายปกครองด้วยกัน
- เป็นกฎหมายที่วางหลักความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรฝ่ายปกครองกับเอกชน
© เนื้อหาหลักของกฎหมายปกครอง
-
- การจัดระเบียบบริหารขององค์กรฝ่ายปกครอง
- อำนาจหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
- การควบคุมการกระทำทางปกครอง
© การจัดโครงสร้างฝ่ายปกครอง
-
- การจัดองค์การภาครัฐโดยหลักการรวมอำนาจ
- การจัดองค์กรภาครัฐโดยหลักการแบ่งอำนาจ
- การจัดองค์กรภาครัฐโดยหลักการกระจายอำนาจ
- การจัดระเบียบราชการบริหารส่วนกลาง
- การจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาค
- การจัดระเบียบราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
- การจัดระเบียบราชการบริหารแบบอื่น
© การจัดบริการสาธารณะ
ฝ่ายปกครองมีภาระหน้าที่ที่สำคัญคือการสร้างประโยชน์สาธารณะให้เกิดขึ้นกับประชาชนในการปกครอง กิจการที่จะนำไปสู่ประโยชน์สาธารณะแยกออกเป็น 2 ประการ ที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน กล่าวคือ
-
-
- กิจการที่ฝ่ายปกครองจะต้องใช้อำนาจของตนที่มีตามกฎหมายเข้าควบคุมประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในสังคม
- กิจการที่ฝ่ายปกครองจะต้องจัดให้มีการให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป (บริการสาธารณะ)
-
© การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
-
- เครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
- ความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำทางปกครอง
- กฎและคำสั่งทางปกครอง , สัญญาทางปกครอง
- ความรับผิดชอบของฝ่ายปกครอง
- พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
- การควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครอง
- พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของหน้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
หน่วยงานทางปกครอง หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครอง หรือให้ดำเนินกิจการทางปกครอง [พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542]
© ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
มาตรา 197 “ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองอันเนื่องมาจากการใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมายหรือเนื่องมาจากการดำเนินกิจการทางปกครอง ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
ให้มีศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น
อำนาจศาลปกครองตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการวินิจฉัยชี้ขาดขององค์กรอิสระ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยตรงตามรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระนั้นๆ
การจัดตั้ง วิธีพิจารณาคดี และการดำเนินงานของศาลปกครองให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”
มาตรา 198 “การบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับตุลาการศาลปกครองต้องมีความเป็นอิสระ และดำเนินการโดยคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองซึ่งประกอบด้วย ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธาน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นตุลาการในศาลปกครอง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นตุลาการในศาลปกครองไม่เกินสองคน บรรดาที่ได้รับเลือกจากข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ”
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
คดีปกครองมีลักษณะพิเศษต่างไปจากคดีแพ่งและคดีอาญา ดังนั้น จึงมีวิธีพิจารณาที่เหมาะสมกับสภาพของคดีปกครองเอง ซึ่งได้แก่วิธีพิจารณาแบบไต่สวน อันเป็นวิธีการที่มีหลักสำคัญในการให้อำนาจศาลในการแสวงหาข้อเท็จจริงได้ อย่างกว้างขวาง และเป็นผู้ดำเนินกระบวนพิจารณาเอง การพิจารณาคดีปกครองต้องเคารพหลักทั่วไปของระบบวิธีพิจารณาคดี อันเป็นหลักการที่มุ่งเน้นให้มีการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ เช่น การฟังความสองฝ่าย การพิจารณาไปตามกรอบของคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง การคัดค้านตุลาการ เป็นต้น
มาตรา 7 ศาลปกครองแบ่งออกเป็นสองชั้น คือ (1) ศาลปกครองสูงสุด (2) ศาลปกครองชั้นต้น ได้แก่ ก. ศาลปกครองกลาง ข. ศาลปกครองในภูมิภาค ใช้ระบบไต่สวนในการพิจารณาคดีปกครอง (ระบบไต่สวน ให้ตุลาการมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกระบวนพิจารณา และแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จำเป็นต่อการพิจารณาพิพากษาคดี) กระบวนพิจารณาคดีปกครองจะมีหลักการที่สำคัญ คือเป็นกระบวนการพิจารณา ที่ส่วนใหญ่จะเป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นระบบไต่สวน
“อำนวยความยุติธรรมทางปกครองด้วยความเป็นธรรม รวดเร็ว ทันสมัย
เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสังคม และเป็นศาลแห่งความเป็นเลิศ”
ในการดำเนินคดีปกครองของศาลปกครอง จะมีสำนักงานศาลปกครองทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของศาลปกครองคือ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนเพื่อให้การดำเนินการของศาลปกครองเป็นไปได้ด้วยดี และมีประสิทธิภาพ สำนักงานศาลปกครองเป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยมีเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองเป็นผู้บังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อประธานศาลปกครองสูงสุดในการบริหารงานสำนักงานศาลปกครอง
พรบ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 77 กำหนดให้สำนักงานศาลปกครองมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
- รับผิดชอบในงานธุรการของศาลปกครอง
- ดำเนินการเกี่ยวกับคดีปกครองตามคำสั่งของศาลปกครอง
- ดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครอง
- ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การปฎิบัติงานของศาลปกครอง
- วิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครองเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงวิธีปฎิบัติราชการต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
- จัดพิมพ์และเผยแพร่คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครอง
- จัดให้มีการศึกษาอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ของตุลาการศาลปกครอง ข้าราชการฝ่ายศาลปกครองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาหลักกฎหมายมหาชน การบริหารราชการแผ่นดิน และบุคลากรด้านกฎหมายมหาชน
- ปฏิบัติการอื่นตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือตามที่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานศาลปกครอง
กฎหมายปกครอง เป็นคำรวมของกฎหมายหลายฉบับ และมีชื่อแตกต่างกัน (ประเทศไทย) อาจจะอยู่ในชื่อของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เมื่อเกิดกรณีพิพาทจากการใช้อำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย จะต้องอยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง
รัฐเสรีประชาธิปไตยยอมรับรองและให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นมูลฐานของราษฎรไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยอาจจำแนกสิทธิเสรีภาพดังกล่าวได้เป็น 3 ประเภท คือ
- สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยแท้ อันได้แก่ สิทธิเสรีภาพในชีวิตร่างกาย สิทธิเสรีภาพในเคหสถาน สิทธิเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันและกัน สิทธิเสรีภาพในการเดินทางและการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัย และสิทธิเสรีภาพในครอบครัว
- สิทธิเสรีภาพในทางเศรษฐกิจ อันได้แก่ สิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพ สิทธิเสรีภาพในการมีและใช้ทรัพย์สิน และสิทธิเสรีภาพในการทำสัญญา
- สิทธิเสรีภาพในการมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง อันได้แก่ สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง สิทธิเสรีภาพในการรวมตัวกันเป็นสมาคมหรือพรรคการเมือง และสิทธิเสรีภาพในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้ง
รัฐจะต้องธำรงรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ ซึ่งในบางกรณีรัฐจำต้องบังคับให้ราษฎรกระทำการหรือละเว้นไม่กระทำการบางอย่าง โดยองค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนแห่งสิทธิเสรีภาพของราษฎรได้ แต่รัฐให้คำมั่นต่อราษฎรว่า “องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะกล้ำกรายสิทธิเสรีภาพของราษฎรได้ ก็ต่อเมื่อมมีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดแจ้งและเป็นการทั่วไปว่าให้องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกล้ำกลายสิทธิเสรีภาพของราษฎรได้ในกรณีใด และภายในขอบเขตอย่างไร
หลักนิติรัฐ
ในรัฐสมัยใหม่นั้นการปกครองประเทศนั้นปกครองด้วยหลักนิติรัฐ หลักนิติรัฐ หมายถึง การปกครองที่มีกฎหมายเป็นผู้ปกครอง ไม่ใช่การปกครองที่มีตัวบุคคลเป็นผู้ปกครอง ดังนั้น กฎหมายจึงเป็นแนวปฏิบัติสำหรับการบริหารราชการแผ่นดินที่บุคลากรภาครัฐทุกภาคส่วนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐาน อันประกอบด้วย
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
- พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
- พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ด้วยตนเอง
สาระสำคัญของหลักนิติรัฐ
- บรรดาการกระทำทั้งหลายของรัฐฝ่ายบริหารจะต้องชอบด้วยกฎหมายที่ตราขึ้นโดยองค์กรของรัฐฝ่ายนิติบัญญัติ
- บรรดากฎหมายทั้งหลายที่องค์กรของรัฐฝ่ายนิติบัญญัติได้ตราขึ้นจะต้องชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
- การควบคุมไม่ให้การกระทำขององค์กรของรัฐฝ่ายบริหารขัดต่อกฎหมายก็ดี การควบคุมไม่ให้กฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ดี จะต้องเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรของรัฐฝ่ายตุลาการซึ่งมีความเป็นอิสระจากองค์กรของรัฐฝ่ายบริหารและองค์กรของรัฐฝ่ายนิติบัญญัติ
©หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
หัวข้อแนะนำ (ผลงานนักศึกษา)