โครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มุ่งสู่คุณลักษณะของบัณทิตในศตวรรษที่21
โครงการ
วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2565 สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (โดยอาจารย์สากล พรหมสถิตย์ และนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ชั้นปีที่ 2) ดำเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มุ่งสู่คุณลักษณะของบัณทิตในศตวรรษที่21 ในหัวข้อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญกับความสัมพันธ์ในหน่วยงานภาครัฐ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา 2552601 กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมือง ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคาร 23 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
พิธีเปิด
ในการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มุ่งสู่คุณลักษณะของบัณทิตในศตวรรษที่21 ครั้งนี้ ท่านรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ผศ.ดร.คำภีรภาพ อินทนู) ได้เมตตามาเป็นประธานในพิธีเปิด ในเวลา 09.00 น. โดยได้กล่าวถึงความสำคัญของการจัดโครงการรูปแบบนี้ว่า “มีความจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนานักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ให้ได้เรียนรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มากกว่าการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน”
การบรรยาย
การจัดโครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มุ่งสู่คุณลักษณะของบัณทิตในศตวรรษที่21 ในหัวข้อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญกับความสัมพันธ์ในหน่วยงานภาครัฐ” ในครั้งนี้ สาขาวิชาฯ ได้เรียนเชิญ ดร.สาคร ปลึ้มรัมย์ หัวหน้าสำนักงานทนายความสาคร ปลึ้มรัมย์ อาจารย์พิเศษประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ในรายวิชากฎหมายลักษณะพยาน มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จำนวน 145 คน ตั้งแต่เวลา 09.30-11.30 น.
สาระสำคัญ
-
- หลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ
- ความหมาย ประวัติ ประเภทของรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญนิยม
- การจัดทำรัฐธรรมนูญ
- อำนาจอธิปไตยและการแบ่งแยกอำนาจ
- องค์การทางการเมือง
- กระบวนการทางนิติบัญญัติ
- สิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ความรู้ที่ผู้เข้าอบรมได้รับ
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่มีประวัติอย่างยาวนาน แต่มีหลักฐานชัดเจนในประเทศอังกฤษสมัยพระเจ้าจอห์นเป็นกษัตริย์ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่โหดร้าย ใช้อำนาจไม่มีขอบเขต ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 1212 (พ.ศ. 1758) ขุนนางและพระราชาคณะจำนวน 25 คน ได้บังคับให้พระเจ้าจอห์ลงนามในเอกสารที่เรียกว่า มหาบัตร (The Great Charger, Magna Carta) ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างพระมหากษัตริย์กับขุนนางและพระจำนวน 12 ข้อ โดยในมหาบัตรได้กำหนดถึงองค์กรและอำนาจของสภาใหญ่ (Magnum Concillium) และกำหนดว่าพระมหากษัตริย์จะเก็บภาษีบางอย่างตามที่กำหนดไว้โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาใหญ่ ไม่ได้ จะจับกุมคุมาขังได้ต่อเมื่อมีคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น (วิษณุ เครืองาม,2538. มานิต จุมปา, 2559. หยุด แสงอุทัย, 2538)
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ โดยเป็นกฎหมายที่กำหนดโครงสร้างพื้นฐานและสถาบันทางการเมืองในการจัดองค์กรบริหารของรัฐ รวมถึงการคุ้มครองและรักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นรากฐานที่มาของกฎหมายอื่น ๆ จึงกล่าวได้ว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่สำคัญยิ่ง เพราะเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญทุกประเทศต่างบัญญัติเรื่องของอำนาจการบริหารประเทศไว้ทั้งสิ้น ไม่ว่าประเทศนั้นปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ระบอบคอมมิวนิสต์ หรือระบอบการปกครองอื่น ต่างก็บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเรื่องเดียวกัน คือ เรื่องอำนาจการบริหารประเทศ
ประเทศไทยนับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาแบบประเทศอังกฤษ ใน พ.ศ. 2475 ถึง พ.ศ. 2564 เป็นเวลา 89 ปี โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยได้ประกาศยกร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เพื่อใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการกำหนดรูปแบบ สถาบัน และวิธีการในการปกครองประเทศ มาแล้วถึง 20 ฉบับ
กล่าวโดยสรุป รัฐธรรมนูญ หมายถึง กฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ เป็นรากฐานที่มาแห่งกฎหมายอื่น ซึ่งได้กำหนดถึงที่มาแห่งอำนาจอธิปไตย การใช้อำนาจอธิปไตย และรวมถึงองค์กรและสถาบันทางการเมือง ความสัมพันธ์ขององค์กรหรือสถาบันทางการเมือง รวมถึงการกำหนดสิทธิและหน้าที่ระหว่างรัฐกับประชาชน
การจัดกิจกรรม
การจัดโครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มุ่งสู่คุณลักษณะของบัณทิตในศตวรรษที่21 ในหัวข้อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญกับความสัมพันธ์ในหน่วยงานภาครัฐ” ในครั้งนี้ นักศึกษาสาขาวิชรัฐประศาสนศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 หมู่ 3 ได้ร่วมเป็นทีมงานจัดงาน ทั้งในส่วนของการเตรียมสถานที่ การเป็นพิธีกร/พิธีการในการจัดกิจกรรม จัดการเรื่องลงทะเบียน จัดอาหารว่างและอาหารเที่ยง รวมถึงเก็บกวาดสถานที่ให้คืนสู่สภาพเดิม
ภาพของผู้เข้าอบรม
แบบประเมินความพึงพอใจ
-
-
- ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 128 คน
- ชาย 40 หญิง 88
- หมู่1 (48) หมู่ 2 (47) หมู่3 (33)
- ความพึงพอใจโดยภาพรวม (พึงพอใจมาก)
-
ข้อเสนอแนะจากผู้เข้าอบรม
-
- อยากให้จัดกิจกรรมแบบนี้บ่อยๆ
- อยากรู้เกี่วกับรัฐบาลให้มากกว่านี้
- ควรมีการซักถามระหว่างวิทยากรกับนักศึกษา
- วิทยากรให้ความรู้ได้ดีมาก